คำเตื่อน:ก่อนอ่านเพื่ออรรถรส ผู้แปลเต่าตุ่นทั้งภาษาอังกฤษ+ไทยอาจข้ามบางส่วนของบทความ+แปลพลาด ขออภัยมาณที่นี้
Jake Bugg: Old kid on the block
แต่ในวัย 20 เต็มตัว ยังมีหนึ่งสิ่งที่เขายังคงฝันว่าจะทำ
" ผมอยากจะแสดงเป็นวงหลัก(up front) ที่อังกฤษครับ" นักร้องผู้คลั้งใคล้กีฬาฟุตบอลกล่าว และหัวเราะผ่านสายโทรศัพท์ถึง TimeOut
ติดอยู่ในภาระหน้าที่ที่อเมริกา เขาไม่มีแม้แต่เวลาฉลองวันเกิดวัย 20 ปี เหตุการณ์สำคัญซึ่งดูน่ากังวลทีเดียว
"ผมไม่ชอบการเข้าสู่วัย 20 จริงๆเพราะมันเหมือนกับผมต้องทำอะไรให้สำเร็จมากขึ้นอีกในอีก 10 ปีข้างหน้า ยิ่งกว่าที่ผมทำตอนเป็นวัยรุ่น"
"วัยรุ่นของคุณ แบบที่คุณโตขึ้นและใช้เวลาส่วนใหญ่กลายเป็นคนที่คุณกำลังจะเป็น มันเป็นความรู้สึกที่แปลก พวกนักดนตรีอายุน้อยต้องผ่านมันไปเร็วๆนี้แหละ และผมก็ไปใช่หนุ่มน้อยเหมือนเดิมแล้ว"
"มันบ้านิดหน่อยที่คุณรู้สึกว่า เหมือนอายุของคุณผ่านไปมากกว่า 1 ปี ตอนที่คุณก้าวสู่วัย 20"
หลายๆคนในช่วงอายุของเค้าน่าจะฉลองกับเพื่อนและบักก์ก็ยอมรับว่าเขาก็ชอบเข้าร่วมงานปาร์ตี้ตามโอกาสเช่นกัน "ก็จัดพอสมควรครับ"
ขณะทัวร์เขาชอบหลบไปอยู่ตามลำพังในห้องพักของโรงแรมเพื่อผ่อนคลาย ดูฟุตบอลและเขียนเพลงใหม่ๆ
" ไม่มีเวลาอื่นให้เขียนเลยครับ บางคนเห็นว่ามันเป็นเรื่องยากแต่ผมว่าไม่ ดนตรีสำหรับผมเหมือนเป็นการระบาย มันเป็นเครื่องชำระจิตใจและเยียวยา ถ้าผมเครียดในระหว่างทางหรือบางอย่างมันเริ่มบ้าๆ ดนตรีคือหนึ่งสิ่งที่จะพาผมไปอีกโลกหนึ่ง พาผมหนีออกมา "
" บางครั้งผมไม่อยากจะคิดถึงความจริงของชีวิตและผมใช้เนื้อเพลงเพื่อสร้างฉากของที่ซักแห่งที่ผมน่าจะไปอยู่หรือบางสิ่งที่ผมน่าจะทำ ผมชอบมันมากกว่าทุกสิ่งในโลก "
ด้วยความรักในเสียงเพลงพาเจคไปในหลายๆที่ที่เขาฝันระหว่างอยู่ที่ห้องนอนในคลิฟตันหลังเลิกเรียนและเขียนเพลงอคูสติกที่ทำให้มันเล่นซ้ำๆอยู่ในหัวคุณ Lightning Bolt และ Two Fingers ที่ทำให้อัลบั้มในปี 2012 ของเขากลายเป็น one of the year's best records
มันเร็วมากในการติดตาม ทำนองที่ลดลง เพิ่มความโฟล์คและความลึกซึ้ง Shanggri La ปล่อยออกมาในเดือนพฤศจิกายน ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์ Rick Rubin
เขาจะเคยหยิกตัวเองขณะที่นั่งอยู่ข้างรูบิน แสดงสดต่อหน้าคนนับแสนที่ Glastonbury หรืออัดเพลงกับมือกลองวง Red Hot Chilli Peppers, Chad Smith บ้างหรือเปล่า ?
บักก์พูดว่าไม่ เขาไม่เคย เขามักจะเชื่อเสมอว่าทุกสิ่งมีความหมายที่จะเกิดขึ้น
" ผมฝันมาเสมอกับสิ่งเหล่านี้ตอนยังเด็ก มันเป็นความฝันของผมและเมื่อมันกลายเป็นความจริงมันรู้สึกปกตินะ เพราะมันเหมือนกับ 'ใช่ มันเป็นแบบนี้แหละในความคิดชั้น' มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้ว่าจะเกิดและมันก็เกิดขึ้น"
สำหรับเรื่องข่าวลือ บักก์เรียนรู้ มันเป็นข้อเสีย 5 เดือนที่เขาคบกับ Cara Delevingne ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นเหมือนตัวจับตามหนังสือพิมพ์กอสซิบ เขากลายเป็นนักวิจารณ์หัวเสียในสไตล์ Gallagher จากงานในวงการหรืองาน Award ต่างๆ
เห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่แล้วเขาค่อนข้างโดดเดี่ยวทีเดียว
ถึงแม้ว่าการอยู่บนเส้นทางอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีเวลาไม่มากที่เขาชอบ นั่นคือช่วงเวลาสั้นๆเมื่อกลับบ้าน
"หลายๆคนอยากพบผมและผมพบว่าตัวเองเจอสมาชิกในครอบครัวบางคนที่ไม่เคยเห็นหน้าหรือคุยด้วยมาก่อน อย่างเช่น'นี่คือญาติลำดับที่สามห่างๆของนายไง' มันไม่แตกต่างสำหรับผมเท่าไหร่ ผมไม่ได้รู้จักเขาเลย 20 ปีมานี่ที่ผมคิดว่าผมก็ยังทำได้ถึงจะไม่ได้รู้จักกัน"
"อะไรแบบนั้นเป็นเวลาที่ยากลำบาก ดนตรีทำให้ผมก้าวต่อและทำให้ผมมีสติ"
บักก์ต้องเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์ที่ว่าเขาเป็นตัวกอปปี้ของ Bob Dylan และ Neil Young และนำมาพิมพ์มันซ้ำอีกครั้งให้ผู้ชม
บักก์ยอมรับว่าเขาเป็นแฟนเพลง แต่เขาไม่ได้พยายามที่จะฟังศิลปินคนใดคนหนึ่งมากเกินไป
"เมื่อผมพบว่าศิลปินคนไหนที่ผมไม่อยากจะฟังเค้ามากเกินไป ผมชอบที่จะหาว่าศิลปินคนไหนบ้างที่มีอิทธิพลต่อเขา ผมจะพยายามไม่ฟังทุกอัลบั้ม อาจจะ 2 หรือ 3 อัลบั้มเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รสชาติของมัน"
"มันเป็นเส้นๆบางระหว่างการเลียนแบบและการได้รับอิทธิพล คุณต้องระวังให้มากๆ"
ต่อจากนั้นมีเสียงสะท้อนกลับอย่างรุนแรงหลังจากการแสดงของเขาที่ American Idol บักก์วิจารณ์ในเชิงที่ว่ารายการนี้เป็นตัวบดขยี้ทำลายความฝัน และเขาคิดหนักทีเดียวก่อนตัดสินต่อคำเชิญของ Keith Urban
"สัญชาตญาณขั้นต้นของผมคือปฏิเสธมันซะ ผมได้คอมเม้นเกี่ยวกับรายการแนวๆนี้และผมคิดว่าผมน่าจะไปและสัมผัสมันด้วยตัวเองและลองมีมุมมองจากด้านในนั้นบ้าง"
"ไม่มีใครในรายการนั่นที่ทำเพลงแบบที่ผมทำ แต่อาจจะมีเด็กบางคนที่มีทีวีแค่เครื่องเดียวที่บ้าน พี่สาวของเขาดูอยู่และบังคับให้เขาดูด้วย มันเป็นทางหนึ่งที่จะแนะนำให้เขาได้รู้จักบางสิ่งที่พวกเขาไม่น่าจะได้ฟัง"
ด้วยทัศนคติแบบคนเก่าก่อน(ฮา) ทำให้บักก์แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เพลงป๊อปและเพลงร๊อคทั่วไปตามชาร์ทเพลง
"ผมอยากจะแสดงให้เห็นว่าพวกคุณไม่จำเป็นต้องไปที่รายการพวกนั้นเพื่อสร้างอาชีพของคุณ คุณมีรถตู้ห่วยๆได้ และพักในโรงแรมที่แย่สักไปหน่อย มันอาจจะต้องใช้เวลาปีสองปีสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่มันจะเต็มไปด้วยความสนุก มันเป็นชีวิตที่ดีนะ"
"สำหรับผมตอนผมอยู่ที่โรงเรียน ผมชอบไอเดียการเดินทางกับเพื่อนด้วยรถตู้ มีเบียร์สักหน่อย ถ้าเรื่องไร้สาระนี่ฟังดูดีสำหรับคุณ งั้นก็นี่แหละแบบของคุณ"
จากการที่เขาออกนอกเส้นทางความฝันเกี่ยวกับฟุตบอล ไลฟ์สไตล์ของบักก์ดูเหมือนจะแฮปปี้ซะจนต้องเก็บไว้ โดยเฉพาะเมื่อไหร่ที่โรงแรมมันช่างยอดเยี่ยมอย่างทุกวันนี้
Who: Jake Bugg
Where: Auckland Town Hall, Thursday, April 10
Essential listening: Jake Bugg (2012), Shangri La (2013).
ที่มา: Chris Schulz : TimeOut & NZ Herald
น่ารักมากกกก^^
ตอบลบ